วันที่ 3 พ.ค. 2566 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ตั้งโต๊ะแถลงข่าวหลังเกิดประเด็นดราม่าทั้งวิวาทะกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์และข้อกล่าวหาต่างๆ เรื่องความร่ำรวยทั้งที่บริษัทขาดทุน

ประเด็นแรกเรื่องเงิน ทนายตั้มได้นำเอกสารบริษัทกฎหมาย บัญชีและงบการเงินของบริษัท และมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ มาเปิด โดยบอกว่างบการเงินของตัวเองที่เห็นว่าขาดทุน จริงๆแล้วเป็นงบเก่าก่อนที่ตัวเองจะทำธุรกิจอย่างเต็มตัว รับว่าความ รวมถึงเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย และได้ยื่นภาษีเฉพาะของตัวเองรวมกว่า 1 ล้านบาท

“ชูวิทย์” โพสต์ทนายคนดีรวยเร็ว เบื้องหลังเอี่ยวเว็บพนัน

“ทนายตั้ม” ไม่กลัวโดนฟ้อง บอกโพสต์สาปแช่ง ไม่ได้เจาะจงใคร

ขณะที่ข้อกล่าวหาที่ระบุว่าตัวเองร่ำรวย เพราะช่วงทำคดีให้ลุงพล ได้รับโอนเงินจากแฟนคลับลุงพลจำนวนมาก เป็นหลักแสนหลักล้าน ยืนยันว่าไม่จริง แฟนคลับของลุงพลชอบสร้างเรื่อง สามารถพิสูจน์ได้จากหลักฐานเส้นทางเดินบัญชีของมูลนิธิฯ มีเงินโอนเข้าออกแค่หลักร้อยและหลักสิบเท่านั้น

ส่วนประเด็นที่มีข้อสงสัยว่าตัวเองเดินทางไปที่ประเทศฝรั่งเศสบ่อยๆ ทนายตั้ม โชว์ภาพถ่ายการทำงานของตัวเองที่ประเทศฝรั่งเศส ชี้แจงว่าเป็นการเดินทางไปเที่ยวและไปทำงาน ในฐานะที่ปรึกษาทางกฎหมาย มีภาพขณะเดินทางไปศาลด้วย

จากนั้นทนายตั้มได้เชิญนางจตุพร หรือคุณอ้อย ซึ่งเป็นลูกความของตัวเองที่เป็นผู้หญิงชาวไทย ซึ่งมีสามีเป็นเศรษฐีชาวฝรั่งเศสและเป็นคนเดียวกับที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำคลิปตำรวจช่วยยกกระเป๋าในสนามบินไปลงในเพจ

ทนายตั้มย้อนเล่าว่าตัวเองรู้จักกับคุณอ้อย ในช่วงที่มีการนำเงินมาบริจาคเงินช่วยคนไทยซื้อวัคซีนกว่า 20 ล้านบาท จากนั้นก็กลายมาเป็นลูกความ และสนิทสนมกันมาก

โดยเหตุการณ์ในคลิปที่นายชูวิทย์ เอาไปลงมาจากไอจีส่วนตัวของคุณอ้อย ซึ่งถ่ายวันที่กำลังจะเดินทางไปต่างประเทศ ปกติแล้วจะเดินทางด้วยตั๋วชั้นธุรกิจอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นจะต้องมีตำรวจมาอำนวยความสะดวก และยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ คลิปที่มีการนำมาลงเป็นการบิดเบือน ส่วนตัวเองไม่รู้สึกอะไร แต่กังวลเรื่องความกระทบต่อคุณอ้อย

ส่วนประเด็นบ้านพักที่ฝรั่งเศส ทนายตั้มให้คุณอ้อยชี้แจง บอกว่า จริงๆแล้วเป็นบ้านของตัวเอง ซึ่งเตรียมเอาไว้รับรองลูกๆของทนายตั้ม เพราะรักเหมือนคนในครอบครัว รักทนายตั้มเหมือนน้องชายแท้ๆ

เมื่อถามว่าทำไมถึงสนิทสนมกับทนายตั้มมาก คุณอ้อยบอกว่าจริงๆแล้วรู้จักกันมา 3 ปี เป็นเอฟซีทนายตั้มมาก่อน

ประเด็นที่มีข้อกล่าวหาว่าตัวเองเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน เฮงเกมส์ และสารวัตรซัว ยืนยันว่า ตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับทั้ง 2 อย่าง และยินดีจะให้ตรวจสอบเรื่องทรัพย์สิน

ส่วนความสนิทสนมกับ ‘บิ๊กโจ๊ก’ ยอมรับว่า สนิทกันจริง แต่ภาพที่นายชูวิทย์เอามาโพสต์ จริงๆ แล้ว เป็นภาพที่ตัวเองโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งมีผู้ติดตามน้อยมาก มีแต่คนใกล้ชิด แต่ก็มีคนไม่หวังดีเอาไปส่งต่อ หลังเกิดประเด็นได้พูดคุยกับบิ๊กโจ๊กแล้ว บิ๊กโจ๊กโทรศัพท์มาตำหนิและตัวเองก็ยอมรับว่าเป็นคนที่พลาดเอง

ส่วนประเด็นถุงเงินที่ออกมาแฉนายชูวิทย์ ทนายตั้มบอกว่า หลังตัวเองออกมาเปิดประเด็น ได้ทำตามกระบวนการทางกฎหมายแล้ว โดยเข้าไปให้ข้อมูลที่กองปราบ แต่ยังมีบางคนที่ออกมาพูดแล้วไม่ให้ข้อมูล ขอยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับ ผอ.ท็อป ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของดีเอสไอ

อีก 1 ประเด็ด คือ ประเด็นแอดมินเพจ ออยศรีและผองเผือก ออกมาแฉ ทนายตั้มบอกว่า ตัวเองไม่อยากจะให้ค่า แต่อยากจะบอกว่า ควรจะไปหาหมอได้แล้ว ยืนยันไม่เคยไปใส่ร้ายเรื่องชู้สาว หรืออะไรตามที่อีกฝ่ายออกมาให้สัมภาษณ์ ส่วนที่มีการเอาเรื่องราวต่างๆ มาเผยแพร่ทางเพจ ยืนยันว่าเป็นเรื่องแต่งขึ้นทั้งหมด และเตรียมจะเอาผิดทางกฎหมาย

ทนายตั้ม ทิ้งท้ายว่าตัวเองจะไม่ฟ้องประชาชนที่เป็นทัวร์มาลง เพราะรู้ว่าอาจจะถูกปลุกปั่น แต่จะฟ้องคนที่กุเรื่องขึ้นมาทั้งหมดคำพูดจาก สล็อต777