นิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชั่น บึกบึนและสปอร์ต
นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จัดกิจกรรมทดสอบขับรถนิสสันนาวารา ใหม่ รุ่นปี 2022 แบล็ค อิดิชั่น โดยรถนาวาราที่ได้เตรียมมาให้สื่อมวลชนได้ลองขับกับในครั้งนี้จะเป็นนิสสัน นาวารา แบบดับเบิลแค็บ รุ่น E 7AT แบล็ค อิดิชั่น ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 934,000 บาท ส่วนเส้นทางทดลองขับในทริปนี้เป็นการวิ่งบนถนนปกติจากกรุงเทพฯ ไปยังอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
สำหรับความเปลี่ยนแปลงตัวถังภายนอกได้รับการติดตั้งชุดแต่งโทนสีดำเพิ่มความเท่รอบคันที่ประกอบด้วยกระจังหน้าแบบ interlock กระจกข้างมือจับประตู กันชนหน้าด้านล่าง มือจับประตูท้าย กันชนหลัง และยังเพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยสติกเกอร์ตกแต่ง Black Edition สีดำลายกราฟิกดุดันรอบคัน ส่วนชุดไฟหน้ายังคงใช้แบบ Quad-eyed LED พร้อม Day-time Running Light และไฟท้าย LED แบบ light guide ล้ออัลลอยติดรถเปลี่ยนลายใหม่สีดำขนาด 18 นิ้ว และที่บังโคลนล้อทั้ง 4 ด้านเพิ่มชุดคิ้วซุ้มล้อสีดำ เป็นอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ ตัวเสาอากาศบนหลังคาเปลี่ยนมาใช้แบบครีบฉลามสีดำเช่นกัน
ส่วนภายในตกแต่งด้วยโทนสีดำตามจุดต่างๆ ในห้องโดยสารได้แก่ ช่องแอร์ มือจับประตู ที่วางแก้ว ฐานเกียร์ ที่พักแขนที่ประตู และขอบประตู ตัวมาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่ของนาวาราทุกรุ่นจะเป็นหน้าจอแบบ 3 มิติ ขนาด 7 นิ้ว เพื่อให้ผู้ขับขี่เห็นสถานะข้อมูลการขับขี่ได้อย่างชัดเจน และใช้งานได้ง่ายตลอดเวลา เบาะนั่งด้านคนขับหน้าปรับด้วยระบบกลไก 6 ทิศทาง ส่วนคนนั่งข้างปรับได้ 4 ทิศทาง การออกแบบรูปทรงของปีกเบาะให้โอบกระชับช่วงลำตัวและต้นขาดีขึ้น ส่วนทัศนวิสัยการมองเห็นของคนขับโดยรอบตัวรถชัดเจน ประกอบกับตัวรถเป็นแบบยกสูงจึงสามารถมองเห็นเหตุการณ์ข้างหน้าได้ไกลและยังเพิ่มความปลอดภัยขณะถอยจอด หรือขับในสถานที่คับแคบด้วยกล้องมองรอบคันที่จะแสดงภาพขึ้นบนจอภาพขนาดใหญ่ที่คอนโซลกลาง ส่วนพื้นที่ด้านหลังก็มีขนาดที่กว้างขวาง พนักพิงหลังทางมุมเอียงกำลังดีนั่งสบายตรงกลางเบาะหลังมีที่เท้าแขนซึ่งสามารถวางแก้วน้ำได้ 2 ใบ และยังสามารถพับเบาะรองนั่งขึ้นได้เมื่อต้องการบรรทุกของที่มีความสูง ๆ สำหรับช่อง USB จะมีมาให้สองอันตรงคอนโซลเกียร์กับช่องแอร์ด้านหลัง
ในด้านความปลอดภัยมาพร้อมระบบความปลอดภัยอันได้แก่ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA) ช่วยป้องกันไม่ให้รถไหลขณะออกตัวระบบกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง ที่จะช่วยให้ผู้ขับมองเห็นพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทางผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน กล้องทุกตัวจะจับภาพขณะเคลื่อนไหวจริงและแสดงผลเป็นภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอวิทยุ ซึ่งช่วยให้การขับรถในสถานการณ์ต่าง ๆ ง่ายยิ่งขึ้น ระบบการเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน Moving Object Detection(MOD) ซึ่งทำหน้าที่ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุที่กล้องรอบคันจับการเคลื่อนไหวได้โดยจะปรากฏบนหน้าจอกลาง
และยังครบครันกับ Passive Safety จากเทคโนโลยีความปลอดภัย Safety Shield อาทิ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ช่วยควบคุมล้อให้ค่อยๆหมุนออกตัวโดยไม่เกิดอาการล้อหมุนฟรี ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัจฉริยะ ที่ช่วยรักษาเสถียรภาพการทรงตัวของรถขณะหักเลี้ยวกะทันหันรวมถึงระบบควบคุมเสถียรภาพของรถขณะลากจูง Trailer Sway Assist (TSA) ระบบเบรก ABS ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ระบบกระจายแรงเบรก ระบบเสริมแรงเบรก และไฟเบรกดวงที่สามพร้อมไฟ LED สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ระบบถุงลมนิรภัยมี 2 ใบด้านหน้า ระบบเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ เข็มขัดนิรภัยที่นั่งด้านหลัง ELR แบบสามจุดสามตำแหน่งที่นั่ง เสริมความปลอดภัยด้วยจุดยึดเบาะที่นั่งเด็กแบบ ISOFIX เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารที่เป็นเด็ก
ในด้านสมรรถนะของครื่องยนต์ 2.3 ลิตรตัวใหม่ เมื่อเทียบกับเครื่อง 2.5 ลิตรตัวเดิม จุดที่น่าประทับใจของเครื่องยนต์ตัวใหม่ก็คือ สามารถทำอัตราเร่งช่วงออกตัวได้อย่างว่องไวขึ้นเนื่องจากใช้ระบบเทอร์โบคู่โดยในช่วงความร็ว รอบต่ำ ๆ ที่แรงดันไอเสียยังไม่มาก เทอร์โบลูกเล็กที่มีน้ำหนักเบาจะช่วยสร้างแรงอัดอากาศเข้าสู่กระบอกสูบได้อย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้เครื่องยนต์ 2.3 ลิตรสามารถเรียกแรงบิดออกมาใช้ ได้มากกว่าเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรถึง 100 นิวตัน-เมตร ในช่วงความเร็วรอบเดียวกันที่ 1,200 รอบต่อนาที
จากนั้นเมื่อความรอบสูงขึ้นเทอร์โบลูกใหญ่ก็จะเข้ามารับช่วงทำงานต่อเพื่อช่วยสร้างและรักษาแรงบิดสูงสุดที่ 450 นิวตัน-เมตร ไว้ได้ตลอดช่วงความเร็วรอบที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที ส่วนการทำงานของระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ในโหมดอัตโนมัติ ก็มีจังหวะการเปลี่ยนอัตราทดที่ราบเรียบต่อเนื่อง หรือถ้าผู้ขับจะเปลี่ยนมาใช้โหมดการเปลี่ยนเกียร์เองก็ใช้ได้ง่ายด้วยการโยกคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง +/-
สำหรับการตอบสนองของพวงมาลัยแม้จะมีการปรับอัตราทดลดลงเพื่อให้มีการให้ตอบสนองได้เร็วขึ้นกว่าของนาวารารุ่นก่อน แต่โดยส่วนตัวยังรู้สึกว่ายังต้องใช้แรงสาวพวงมาลัยเยอะ และรัศมีวงเลี้ยวขนาด 6.3 เมตร ก็ออกจะกว้างไปสักหน่อย อีกจุดที่น่าจะปรับปรุงก็คือพวงมาลัยที่ปรับได้แค่สูง/ต่ำส่วนในเรื่องของทัศนวิสัยมีจุดอับตรงเสาหลังคาด้านหน้าที่หนามาก แต่ยังดีที่นาวาราใหม่มีระบบแสดงภาพจากกล้องรอบตัวรถผ่านหน้าจอวิทยุช่วยให้ผู้ขับมีมุมมองที่ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะขณะขับในเส้นทางที่คับแคบ สำหรับตัวเบาะคู่หน้านั่งออกแบบใหม่ให้รองรับช่วงเอวได้ดีขึ้นนั่งแล้วรู้สึกสบายกว่าเบาะรุ่นก่อนอย่างชัดเจน ส่วนตัวเบาะหลังก็มีการปรับองศาพนักพิงให้เอนลงมากขึ้นเพื่อช่วยความเมื่อยล้า
ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ ประกอบสปริงขดโช้คอัพพร้อมเหล็กกันโครงระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบคานแข็งประกอบแหนบแผ่นกับโช้คอัพ ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้สามารถดูซับแรงกระแทกขณะขับผ่านเส้นทางขรุขระได้ดีขึ้นซึ่งเท่าลองขับบนถนนปกติก็ให้ความรู้สึกที่นิ่มนวลและทรงตัวได้มั่นคงดี ส่วนการทรงตัวที่ความเร็วสูงๆ รถมีอาการโคลงบ้างตามสไตล์รถสูง การทำงานของระบบเบรกมีการตอบสนองที่ดีและใช้แรงเบรกลดลงเมื่อต้องหยุดกะทันหัน ก็ไม่เสียการทรงตัวและยังสามารถคบคุมพวงมาลัยเพื่อหลบสิ่งกีดขวางได้ตามต้องการ โดยที่ล้อไม่มีอาการล็อกตายเพราะติดตั้งระบบช่วยเบรกและควบคุมการทรงตัวให้ครบถ้วน สำหรับอัตราสิ้นเปลื่องน้ำมันเชื้อเพลิงหลังจากวิ่งไปกลับ กรุงเทพฯ-สัตหีบ อยู่ที่ 13.5 กม./ลิตร
โดยรวม นิสสัน นาวารา ใหม่ก็จะคล้าย ๆ กับรถคู่แข่งที่เปิดตัวออกมาในช่วงใกล้ ๆ กัน คือ มีการปรับรูปโฉมที่ดูโฉบเฉี่ยวขึ้นแต่จุดขายที่นิสสัน นาวารา ใหม่ ดูนะเหนือกว่าคู่แข่งก็คือ พละกำลัง 190 แรงม้าที่มากที่สุดแล้ว และยังใส่ระบบช่วยการขับขี่และมาตรฐานความปลอดภัยมาให้อย่างเพียบพร้อมด้วยสนนราคาค่าตัวที่ไม่หนีรถกระบะ 4 ประตูขับ 2 ล้อค่ายอื่น ๆ ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้แล้วว่าจะชอบหน้าตาของรถค่ายไหน.
ข้อมูลทางเทคนิค : นิสสัน นาวารา ดับเบิลแค็บ E 7AT แบล็ค อิดิชั่น
-มิติ (ยาว/กว้าง/สูง) 5,260/1,850/1,830 มม.
-เครื่องยนต์ ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบคู่แปรผัน
-ความจุกระบอกสูบ 2,298 ซีซี
-กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาทีคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
-แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที
-เกียร์ อัตโนมัติ 7 สปีด
-ขับเคลื่อน 2 ล้อ
-ราคา 934,000 บาท