ภาระหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว กทม. 7.8 หมื่นล้าน โยนรัฐบาลหน้าแก้
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีการรายงานเพื่อทราบ มีการรายงานความคืบหน้าถึงการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งมีการเสนอเพื่อรับทราบโดยกระทรวงมหาดไทย สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565
ทางกรุงเทพมหานครได้สรุปข้อมูลเพิ่มเติมตามความเห็นของกระทรวงคมนาคมเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
โดยมีการพูดถึงระยะเวลาได้ล่วงเลยมาพอสมควร เพราะฉะนั้นข้อมูลต่างๆที่เคยนำเสนอคณะรัฐมนตรีไม่เป็นข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน
ซึ่งทางกรุงเทพฯโดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในขณะนั้น คือ พล.ต.อ. เอกอัศวิน ขวัญเมือง ยืนยันว่าได้มีการดำเนินการที่ครบถ้วน และถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปตามเจตนารมณ์ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2562 แล้วในเรื่องการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว
ต่อมานายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนปัจจุบัน มีแนวทางการดำเนินโครงการ ดังนี้
ทางกรุงเทพมหานครพร้อมด้วยกับนโยบายการลดภาระค่าใช้จ่ายการเดินทางของประชาชน และทำให้การบริการสาธารณะเป็นไปด้วยความต่อเนื่อง ให้เป็นโครงข่ายเดียวกัน มีการขอรับสนับสนุนงบประมาณสำหรับโครงสร้างพื้นฐานและงานติดตั้งระบบการเดินรถที่เป็นในส่วนของไฟฟ้าและเครื่องกล เช่นเดียวกับรถไฟฟ้าสายอื่นที่รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการเพื่อให้ค่าโดยสารอยู่ในระดับที่ประชาชนสามารถรับภาระค่าใช้จ่ายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือส่วนต่อขยายจากหมอชิตสะพานใหม่คูคต และแบริ่งไปสมุทรปราการ
กทม ยังเห็นให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2562 เพื่อให้การพิจารณาคัดเลือกเอกชนผู้ลงทุนมีความรอบคอบมีการพิจารณาอย่างรอบด้านและตรวจสอบได้เพื่อสะดวกต่อการรับบริการของภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ
เคาะราคาค่าโดยสารสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) เริ่ม 15-45 บาท ตั้งแต่ 3 ก.ค.2566
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง เริ่มเก็บค่าโดยสารวันแรก
“การบินไทย” นำเครื่อง เอ320 ไทยสมายล์ 4 ลำเข้าฝูง เริ่มบินอินเดีย 1 ก.ค.นี้
นอกจากนี้ จากกรณีที่คณะกรรมการดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ว่า บริษัทจะเป็นผู้รับภาระส่วนต่างกันเดินรถที่ค้างจ่ายอยู่ทั้งหมด ที่ทางกรุงเทพมหานครดำเนินการอยู่ ในส่วนนี้ ทางกรุงเทพมหานคร ก็ได้หยุดชำระค่าจ้างเดินรถและค่าซ่อมบำรุงตั้งแต่พฤษภาคม 2562 นับถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลานานกว่า 4 ปี
ก่อกำเนิดเป็นภาระต่อเอกชน มีภาระดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นกับกทมในอนาคตจึงต้องหาข้อยุติในการดำเนินดังกล่าว ทำให้เกิดความชัดเจนและเกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนเป็นผู้ใช้บริการกรุงเทพฯ เห็นควรให้มีการนำเสนอคณะรัฐมนตรีในวันนี้เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการช่วงหมอชิต- สะพานใหม่- คูคต และช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ
รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้าง และดอกเบี้ยในอนาคตทั้งหมดโดยปัจจุบันกรุงเทพฯมีภาระหนี้จากงานโครงสร้างพื้นฐานการซื้อขายพร้อมติดตั้งระบบการเดินรถ ทั้งสิ้น 78,830 ล้านบาท ซึ่งเป็นข้อมูล ณ วันที่ 13 มีนาคม 2566
ต่อมา กระทรวงมหาดไทยมีความเห็นว่าปัจจุบันมี พ.ร.ฎ.ยุบสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ 2566 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว เพราะฉะนั้นการขอรับการสนับสนุนงบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จึงไม่สามารถเสนอ ครมคำพูดจาก สล็อต777. ให้พิจารณาได้เพราะจะมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป และเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติอันเนื่องมาจากยุคสภาผู้แทนราษฎร