หลังจากกรณีฟ้องร้องครอบครองปรปักษ์บ้านอากู๋ ย่านรามอินทรา เมื่อไม่นานมานี้ ก็มีกรณีอื่นให้เห็นมาอีกเรื่อย ๆ

ล่าสุด 10 มี.ค. 67 เจ้าของที่ดินย่านสะแกงาม เขตบางขุนเทียน ร้องสื่อ ถูกผู้อื่นสร้างบ้านรุกล้ำที่ดิน 3 งาน 46 ตารางวาของครอบครัว โดยอ้างว่าเข้ามาอยู่ตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งก่อนหน้านี้กรมที่ดินเคยเข้าไปรังวัด ผู้บุกรุกก็เห็น แต่ไม่โต้แย้ง และยังล้อมรั้วต่อหน้าตำรวจ

โดยเจ้าของที่ดินคือ นางสารภี สืบสาย ย่าของนายมอส มีทั้งหมด 3 ไร่ แต่จุดที่ถูกฟ้องครอบครองปรปักษ์คือพื้นที่ขนาด 3 งาน 46 ตารางวา

ย้อนมหากาพย์! เพื่อนบ้านยึดบ้านอากู๋ อ้างครอบครองปรปักษ์

สามีคู่กรณีอากู๋ ยันอยากจบคดีครอบครองปรปักษ์ เจตนาคืนบ้านตั้งแต่ต้น

“ป้าศรีพรรณ” ยื่นถอนฟ้องครอบครองปรปักษ์ “บ้านอากู๋” แล้ว

นายมอส กล่าวว่า ที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินมรดกตกทอดมาตั้งแต่ปี 2527 ไม่ได้ใช้ประโยชน์ แต่เสียภาษีทุกปี ล่าสุดปี 2566 เสียภาษีไป 7 หมื่นกว่าบาท และเมื่อปี 2566 มีคนมาสร้างกระต๊อบบนที่ดินข้างเคียงที่เป็นที่ดินของบุคคลอื่น ปัจจุบันคือบ้านปูนหลังนี้ ซึ่งเจ้าของบ้านได้นำขยะไปทิ้งและเผาขยะไปในที่ดินของย่าตั้งแต่ปี 2564

ตนจึงไปแจ้งความที่ สน.ท่าข้าม ว่าถูกบุกรุก และฟ้องขับไล่ในเดือนมีนาคม 2566 แต่คู่กรณีกลับฟ้องแย้งครอบครองปรปักษ์ โดยอ้างว่ามาอยู่ตั้งแต่ปี 2547 และเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 มีการต่อเติมบ้านหลังดังกล่าว โดยหลังคาบ้านได้รุกล้ำไปในพื้นที่ของนางสารภี ตอนนั้นจึงเข้าไปล้อมรั้วกันพื้นที่ไว้แต่กลับโดนข่มขู่ และตอนนี้ก็ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ของตนเองได้คำพูดจาก ว็บสล็อตต่างประเทศ

ทีมข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังบ้านของคู่กรณี พบเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว นายมอส ระบุว่าคนนี้แหละที่เป็นคนฟ้องครอบครองปรปักษ์โดยมีคนชื่อ เจ๊น้อย อยู่เบื้องหลัง เมื่อถามลุงเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ก็บอกว่าตนมาอยู่ตั้งแต่ปี 2547 ตอนนั้นไม่รู้ว่าที่ดินมีเจ้าของ

ลุงระบุว่า ตนไม่ได้ฟ้องครอบครองปรปักษ์ แต่พอรู้เรื่องว่ามีการฟ้องร้องกัน และไม่เคยนำขยะไปทิ้ง และเผาขยะในที่ดินของคนอื่น ส่วนที่เห็นว่าเผาคือทำกับข้าวเลยมีควัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อรู้แล้วว่าเจ้าของที่คือใคร หลังจากนี้จะยอมย้ายออกหรือจะขอเช่าพื้นที่รายเดือนหรือไม่ ลุงยืนยันว่าจะไม่ย้ายออกเพราะอยู่มาตั้งแต่ปี 2547 แล้ว และจะไม่ขอเช่าเพราะตนรับซื้อของเก่า หาเช้ากินค่ำ ไม่มีเงินไปเช่าพื้นที่

ผู้สื่อข่าวจึงถามถึง เจ๊น้อย ที่นายมอสอ้างว่าอยู่เบื้องหลังทั้งหมด และให้ลุงพาไปหาเจ๊น้อยเพื่อให้ชี้แจง ลุงมีท่าทีอึกอักและตอบกลับว่าเดี๋ยวจะติดต่อให้ ให้รอก่อน จากนั้นได้ปิดประตู คล้องกุญแจ และเงียบหายไป

ผู้สื่อข่าวจึงถามทางไปบ้านเจ๊น้อยจากชาวบ้านบริเวณนั้น เมื่อไปถึงบ้าน หลานชายบอกว่าเจ๊น้อยไม่อยู่ ออกไปทำธุระข้างนอก พอโทรศัพท์หา เจ๊น้อยบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตน ตนไม่รู้เรื่อง และเมื่อถามว่าเจ็น้อยคือคนที่ฟ้องปรปักษ์นายมอสหรือไม่ เจ๊น้อย กล่าวว่าขอไม่คุย บอกว่าขอไปตอบในศาลเท่านั้น