นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตปี 2566 ว่า มีเบี้ยประกันภัยรับรวม อยู่ที่ 633,445 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3.61% เมื่อเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ 178,470 ล้านบาท เติบโตขึ้น 5.06% และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไป 454,975 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3.06%

โดยผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ได้รับความนิยม คือ สัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพและคุ้มครองโรคร้ายแรง จากการที่ประชาชนใส่ใจดูแลสุขภาพ และประกันชีวิตแบบบำนาญ จากการที่ประเทศไทยก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มตัว

คาดเบี้ยประกันโต 20% รับมีความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกผันผวน

เมืองไทยประกันชีวิต เปิดตัวสิทธิพิเศษ MTL Landmark บนแพลตฟอร์ม SmyleLand

สภาพัฒน์ หั่นจีดีพีปี 67 เหลือโต 2.2-3.2% จากเดิมคาดโต 2.7-3.7%

ส่วนปี 2567 สมาคมประกันชีวิตไทย ประมาณการอัตราการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตอยู่ในช่วง 2-4% สอดคล้องอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ที่สภาพัฒน์ฯ คาดการณ์ไว้ที่ 2.2-3.2% และจากเทรนด์รักสุขภาพ เนื่องจากประชาชนตระหนักถึงผลกระทบของโรคอุบัติใหม่ เช่น โควิด-19 และมลภาวะจากฝุ่น PM2.5 มากขึ้น แนวโน้มค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้น และการเข้าสู่สังคมสูงวัย

ขณะเดียวกันปีนี้ธุรกิจประกันชีวิตยังต้องติดตามแนวโน้มและความผันผวนของสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และตลาดหุ้นไทย ที่ส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการใช้จ่ายของประชาชน

นายกสมาคมประกันชีวิตไทย ย้ำว่าสมาคมมีนโยบายมุ่งให้แต่ละบริษัทประกันชีวิตดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการบริหารและจัดการความเสี่ยงอย่างรอบด้าน รวมถึงมีฐานะทางการเงินที่เพียงพอ เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยมั่นใจว่าบริษัทประกันชีวิตสามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันของกรมธรรม์ประกันภัยได้ทุกกรมธรรม์ และพร้อมให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยจนครบกำหนดสัญญา

ย้อนความสัมพันธ์ 32 ปี “สมเด็จฮุน เซน – ทักษิณ” แนบแน่นแค่ไหน? คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ผลบอลพรีเมียร์ลีก แมนฯซิตี้ ชนะ เบรนท์ฟอร์ด ฮาลันด์ ซัดประตูโทน

ธปท.เพิ่ม “วันหยุดธนาคาร” รับลูก ครม. สงกรานต์นี้หยุดยาว 12-16 เม.ย.67